Customer Reviews

ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน (ปกใหม่)
5
ประวัติศาสตร์ การเมือง อุดมการณ์ และมิตรภาพ
โดย: Tony1111 วันที่เขียนรีวิว: 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เป็นคนไม่ชอบการเมืองเลยค่ะ แต่เพราะเรียนนิติศาสตร์เลยรู้สึกว่าควรจะมีความรู้ติดหัวไว้บ้างโดยเฉพาะพาร์ทประวัติศาสตร์การเมืองไทยต่างๆ คือถ้าใครมีปัญหาไม่ชอบการเมืองเหมือนเราเราจะแนะนำให้อ่านเล่มนี้เลยล่ะ เพราะมันเข้าใจง่าย เรียงลำดับเหตุการณ์สำคัญๆ ในประวัติศาสตร์อิงกับคนที่อยู่ในประวัติศาสตร์จริงๆ และด้วยวิธีดำเนินเรื่องแบบนิยายมันทำให้ไม่น่าเบื่อค่ะ อ่านเพลินแล้วก็ลุ้นไปกับตัวเอกที่ยืนกันอยู่คนละขั้วของประชาธิปไตยซึ่งผู้แต่งเก่งมากค่ะ เวลาอ่านแล้วจะไม่รู้สึกว่าโดนชักนำหรือยัดเยียดความคิดให้เชียร์ฝ่ายไหนเป็นพิเศษเลย เหมือนเป็นการนำเสนอความคิดต่างที่มีจุดประสงค์เดียวกันคือก็หวังดีกับประเทศชาติเหมือนๆ กัน แต่แค่ว่ามีวิธีการกันคนละแบบ เคลื่อนไหวกันคนละอย่าง อยู่กันคนละที่ และต่างคนต่างมีอุดมการณ์ ต่างคนต่างมีสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่นและต้องรับผิดชอบในหน้าที่และสิ่งที่ตนเองเชื่อ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เกลียดกัน คุยกันได้ แลกเปลี่ยนกันได้ เหมือนหนังสือได้แนะแนวทางในการเข้าหาและปรับความเข้าใจสำหรับคนที่ยืนกันคนละจุด ว่าการยึดมั่นถือมั่นมากเกินไปมันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น เรามองว่าตัวละครทั้งสองสะท้อนถึงการรับฟังค่ะ ฟังกันแบบใจนักเลงเปิดกว้าง เพราะหากไม่รับฟังกันเลยคงคุยกันไม่รู้เรื่อง หนังสือเล่มนี้ชื่อเรื่องอธิบายเนื้อหาได้ดีมาก ทั้งคู่เดินกันไปบนเส้นขนานที่ปลายทางเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกันและทั้งคู่ก็ทำเต็มที่ในเส้นอุดมการณ์ของตัวเอง เหมาะกับคนเรียนประวัติศาสตร์ การเมืองมากๆ โดยเฉพาะคนเพิ่งเริ่มต้นสนใจ
4
เรื่องสั้นๆ อ่านเพลินๆ ภาพสวยแฝงความหมาย มีมิติคมคาย
โดย: Tony1111 วันที่เขียนรีวิว: 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สืบเนื่องจากได้อ่านเล่มหนึ่งแล้วไปชำเลืองคำโปรยของเล่มสองดู มันโดนใจตรงที่ว่ามาเล่มนี้ตัวละครกับเหตุการณ์หลายๆ อย่างจะมาจากของรอบๆ ตัว เอามาด้น มาผูกกัน คือเหมือนการที่เขาเอาของใกล้ๆ ตัวที่ทุกคนรู้จักและเข้าถึงได้ง่าย แถมบางอย่างก็ธรรมดามากจนไม่น่าจะดัดแปลงแต่งเติมให้น่าสนใจได้เลย เหมือนของที่เห็นกันอยู่ทุกๆ วัน...แต่ของเดิมๆ นั้น พอบวกผสมจินตนาการสดๆ เข้าไปแล้วมันมีเสน่ห์กว่าที่คิดนะคะ ชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องแต่ละเรื่องเลยค่ะ มันดูธรรมดานะแต่ก็น่าสนใจเพราะเราเดาไม่ได้เลยว่าเขาจะผูกโยงกันยังไง อารมณ์ว่าของพวกนี้เอามาทำเป็นนิทานได้ด้วยนะ บวกกับภาพประกอบที่ชวนคิดตาม คือก่อนเราจะอ่านเรื่องแต่ละเรื่องมันจะสะดุดเข้ากับภาพก่อนค่ะ ใช้เวลาอึดใจในการเดาเรื่องว่ามันจะออกมาอารมณ์ไหนแล้วถึงค่อยเริ่มอ่าน สนุกดีค่ะ ถ้ามีลูกมีหลานมันน่าจะเป็นช่วงเวลาดีๆ นะ ถ้าเราลองเริ่มจากชี้ชวนเขาให้สนใจรูป จูงใจเขาเข้ามาในวงก่อน ลองให้เขาเดาว่าคนในรูปหรือสัตว์ในรูปกำลังจะทำหรือจะเจออะไร แล้วค่อยเริ่มอ่านนิทานให้เขาฟัง โดยตัวภาษาสละสลวย ชอบวิธีการเลือกใช้คำในหลายๆ เรื่องและเนื้อหาก็อ่านเพลินแบบนิทานที่ก็มีจุดจี๊ดๆ อยู่เหมือนกัน อ่านๆ ไปจนจบเรื่องนี้แล้วมันสะดุดกึกเหมือนเวลาลืมกระเป๋าเงินก่อนออกจากบ้านแล้วไปนึกได้ตอนถึงหน้าตลาดแล้วเลยค่ะ เพราะตัวนิทานจะมีจุดที่จูงใจเราให้เดินตามไปเรื่อยๆ เพลินๆ ดี
4
สั้นกระชับ มีมิติแฝงข้อคิดและรูปสวย :)
โดย: Tony1111 วันที่เขียนรีวิว: 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เอาจริงๆ ซื้อเรื่องนี้เพราะกะว่าจะหาหนังสือที่มีเรื่องสั้นๆ หลายๆ เรื่อง ที่จบในตอนไม่ต่อยาวๆ อารมณ์เข้าช่วงพักหลังจากอ่านหนังสือชุดมาจนตาแฉะ บวกกับชื่อประภาส ชลศรานนท์บนปกก็เลยจ่ายเงินแบบไม่คิดอะไรมาก เรื่องแต่ละเรื่องก็สั้นดีค่ะ แต่ใช้เวลาอ่านนานกว่าที่คิดนะเพราะอ่านปุ๊บแล้วมันจะหยุดนิดหนึ่ง คิดตามก่อน เอ...เขาหมายถึงเรื่องนั้น เรื่องนี้หรือเปล่านะ? คือมันไม่ใช่นิทานเด็กๆ อ่านแล้วเอาเรื่องกันง่ายๆ เลยค่ะ ส่วนตัวมองว่าเหมาะให้เด็กโตๆ ขึ้นมาหน่อยแล้วก็ผู้ใหญ่นี่แหละลองอ่านกัน ตัวละครและเนื้อเรื่องหลายๆ ส่วนจะมีบรรยากาศบางอย่างที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคยและนึกย้อนถึงเรื่องอื่นๆ ที่ให้อารมณ์ใกล้เคียงกันค่ะ คล้ายๆ การทบทวนตัวเองเหมือนกันนะ อ่านไปก็นั่งคิดไปว่านี่ถ้าอ่านเล่มนี้ตอนเด็กกว่านี้ ฉันจะคิดอย่างนี้ไหมนะ? หรือว่า ถ้าแก่ๆ ไปแล้วกลับมาอ่านมันอีกครั้ง ฉันจะมองมันแบบเดิมไหมนะ? คือเนื้อเรื่องแค่สองสามหน้าของนิทานมันให้มิติในหลายมิติกว่าที่คิดค่ะ นอกจากจะอ่านเพลินๆ จบในตอนตามอารมณ์ของนิทานแล้วก็ยังแฝงอะไรไว้หลายๆ อย่างจนควรค่าแก่การอ่านซ้ำเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนเราโตขึ้นทุกวันและเปลี่ยนทัศนคติตัวเองไปตามประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับที่ตอนเด็กๆ เราอ่านนิทานเรื่องนั้นเราก็มองว่า อ๋อ ก็นั่นแหละ! แต่พอโตมาไม่ว่าบังเอิญหรือตั้งใจไปอ่านอีกหน เชื่อว่ามันต้องมีมุมบางมุมที่ตอนเด็กๆ เราไม่เคยคิดอย่างนี้มาก่อน ในนิทานเล่มนี้ก็เช่นกัน
4
ได้วิธีคิดหลายๆ อย่าง แถมอ่านเพลินเหมือนได้นั่งคุยกับเขาอยู่เลยล่ะค่ะ
โดย: Tony1111 วันที่เขียนรีวิว: 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

#teamSTAMP บอกก่อนว่าส่วนตัวเราติ่งเขามาพักใหญ่แล้ว เคยตามข่าวกับพวกรายการที่เฮียไปออกตั้งแต่สมัยยังเป็นวง 7thScene (โตไม่ทันแต่ไปตามย้อนดูเอา) ดังนั้น เนื้อหาส่วนใหญ่ในหนังสือเล่มนี้คือรู้มาก่อนอยู่แล้วค่ะ เรื่องสมัยเด็กๆ ของเฮียเขาทั้งหลาย แต่ถามว่ารู้อยู่แล้วจะอ่านอีกทำไม? ก็ทำไมจะไม่ล่ะ? (ฮา) ณ ตอนที่ได้หนังสือมาจนตอนนี้ก็อ่านมาสามรอบแล้วค่ะ โดยเฉพาะพาร์ทเรียนแต่งเพลงกับพี่บอยโก อ่านกี่ทีก็ยังขำ : )) ถ้าใครเคยเห็นเฮียเขาในทีวีแล้วชื่นชอบในเสน่ห์ของเขา คือมันไม่ได้ลดลงเลยนะตอนที่เขาถ่ายทอดมาเป็นตัวหนังสือ คืออ่านเพลินมาก เพลินเหมือนเวลาได้ฟังเขาพูด หรือเวลาได้ดูไลฟ์โชว์กับเพลงด้นสดนั่นแหละ เอาจริงๆ ถ้าพูดกันตรงๆ คือเฮียเขาเกิดมามีชีวิตธรรมดามากๆ คือชีวิตพื้นๆ เด็กฟันเหล็กตัวสูงๆ เก้งก้าง กับความฝันวัยรุ่นสมัยนั้นที่ชื่นชอบนักร้อง มีศิลปินในดวงใจแล้วรับมาเป็นแรงบันดาลใจ คือดูไม่น่าสนใจเลยถ้าจะมองแค่นั้น ถ้าเทียบเป็นนิยายก็ไม่ใช่นิยายเน้นพล็อตเลย...แต่ๆ...มันเป็นนิยายที่เน้นเสน่ห์และพัฒนาการของตัวละคร ตัวเอกเป็นคนธรรมดากับความพยายามของคนธรรมดาๆ ที่ผสมกับโอกาสและวิธีคิดที่ทำให้มันมีเรื่องพิเศษๆ ขึ้นมา เป็นหนังสือที่ให้ทั้งกำลังใจและแนวคิดในการเก็บฝันเลยค่ะ เหมือนเฮียเขายิ้มตาหยีๆ แล้วบอกเรามาเรื่อยๆ น่ะว่าถ้าชอบนะก็เอาเลย จัดไป ถ้าชอบจริงไม่ต้องถามหรอกว่าดีไหม ทำไปเลย! ก่อนที่ความฝันจะล้มสลายหายไปในระหว่างทาง :D
www.batorastore.com © 2024